ทำกันสาดบ้าน มี 4 เรื่องต้องรู้เพื่อป้องกันปัญหากับเพื่อนบ้าน
ทำกันสาดบ้าน สำหรับผู้ที่พักอาศัยในบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ หรือทาวน์โฮม คงคุ้นเคยกับกันสาดบ้านเป็นอย่างดี เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันแดดและกันฝนที่จะสาดเข้ามายังบริเวณหน้าบ้านหรือโรงรถ แต่ถ้าหากบ้านไหนไม่มีกันสาดหรือต้องต่อเติมกันสาดบ้านใหม่ จะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง เราหาคำตอบมาให้แล้ว
กันสาดบ้านมีประโยชน์อย่างไร
ข้อดีของกันสาดบ้านไม่ได้มีแค่กันแดดกันฝนเท่านั้น แต่ทำให้มีพื้นที่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ช่วยยืดอายุสิ่งปลูกสร้างและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่เสื่อมเร็วเพราะโดนแดดโดนฝน นอกจากนี้ยังเพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้าน สะท้อนรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดีด้วย
ทำกันสาดบ้าน อย่างไรให้ไม่มีปัญหาเพื่อนบ้าน
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะทำกันสาดบ้าน หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ “เพื่อนบ้าน” แม้ว่าจะเป็นการทำกันสาดในรั้วบ้านของคุณเอง แต่ก็อาจสร้างผลกระทบให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากขั้นตอนการก่อสร้าง มลพิษที่เกิดขึ้นขณะต่อเติมกันสาดบ้าน เป็นต้น ถ้าหากไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ลองใช้วิธีดังนี้
1. บอกกล่าวให้เข้าใจ
การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาเป็นวิธีที่ดี เพราะแสดงถึงความรับผิดชอบและใจใส่ใจของคุณที่มีต่อเพื่อนบ้าน ด้วยการแจ้งถึงระยะเวลาในการทำกันสาดบ้านว่าจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้เพื่อนบ้านได้รับทราบและเตรียมหาวิธีรับมือ พร้อมทั้งแจ้งนิติบุคคลที่ดูแลหมู่บ้านให้ทราบด้วย
2. ศึกษาข้อกฎหมาย
ก่อนทำการติดตั้งกันสาดบ้าน อย่าลืมศึกษากฎระเบียบเฉพาะของชุมชนที่เราพักอาศัยในเรื่องการต่อเติมอาคารบ้านเรือน ยิ่งเป็นการต่อเติมที่ใกล้ชิดแนวเขตแดนเพื่อนบ้าน ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะถ้าสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน หรือถ้าไม่ได้รับการยินยอมจากเพื่อนบ้านตั้งแต่แรก กรณีนี้เพื่อนบ้านสามารถฟ้องร้องเอาผิดต่อเจ้าของบ้านที่ต่อเติมได้ ดังนั้นจึงควรศึกษากฏหมายเรื่องนี้ให้ดี
3. อย่าลืมติดตั้งรางน้ำฝนบนกันสาดบ้าน
นอกจากต้องระวังเรื่องระยะห่างของกันสาดบ้านกับเขตแดนของเพื่อนบ้านแล้ว ยังต้องระวังเรื่องของน้ำฝนที่อาจเทจากกันสาดบ้านคุณไปยังเขตของเพื่อนบ้านซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินของเพื่อนบ้านได้อีกด้วย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการติดตั้งรางน้ำฝนที่ได้มาตรฐานเพื่อลดการเกิดปัญหาดังกล่าว
4. บังทัศนียภาพของเพื่อนบ้านหรือไม่
อีกเรื่องที่ต้องระวังก่อนทำกันสาดบ้านก็คือต้องคำนึงด้วยว่าจะไปบดบังวิวหรือทัศนียภาพอันสวยงามของเพื่อนบ้านหรือไม่ และยังต้องดูเรื่องทิศทางแดดและลมที่ส่องเข้ามายังบ้านของเพื่อนบ้านอีกด้วย ดังนั้นก่อนต่อเติมกันสาดบ้านจึงควรพูดคุยกับเพื่อนบ้านเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันเสียก่อนเพื่อลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตในกรณีที่เพื่อนบ้านไม่พอใจเรื่องนี้แล้วมาฟ้องร้องภายหลัง
ทำกันสาดบ้านอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย
ก่อนทำกันสาดบ้านจะต้องนอกจากจะต้องทำความเข้าใจกับเพื่อนบ้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลยเช่นกันก็คือเรื่องกฎหมาย ซึ่งมีพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร กำหนดให้การก่อสร้างหรือต่อเติมต้องมีระยะห่างระหว่างอาคาร เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและป้องกันการรบกวนบุคคลในพื้นที่ข้างเคียง โดยมีข้อกำหนดดังนี้
1. การต่อเติมกันสาดบ้านจะต้องเว้นระยะจากชายคา จนถึงแนวเขตที่ดิน ไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร
2. การเปลี่ยนแปลงส่วนอื่นนอกจากโครงสร้างอาคารด้วยวัสดุที่แตกต่างจากเดิมหรือเพิ่มน้ำหนักเกินกว่า 10% ของน้ำหนักเดิม ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตการเปลี่ยนแปลง ต่อเติม เพิ่ม ลด เนื้อที่ในบ้านด้วยวัสดุที่แตกต่างจากเดิม
3. หากเพิ่มน้ำหนักเกินกว่า 10% ของน้ำหนักเดิม ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตในกรณีที่มีการต่อเติมในพื้นที่ที่ติดหรือใกล้เคียงกับเขตที่ดินข้างเคียง ต้องเว้นระยะห่างจากแนวเขตที่ดินข้างเคียงไม่น้อยกว่า 2 เมตร
ดูแลรักษากันสาดบ้านอย่างไรให้อยู่กันยาว ๆ
วัสดุที่นำมาทำกันสาดบ้านมีหลายประเภท ดังนี้
ประเภทกันสาดบ้าน
ข้อดี
ข้อด้อย
ไวนิล
กันความร้อนได้ดี, ซับเสียงเวลาฝนตก, อายุการใช้งานนาน และสวย
ต้องใช้ความชำนาญในการติดตั้ง สีอาจหมองตามเวลาการใช้งาน และราคาแพง
APVC, PVC
น้ำหนักเบา, ติดตั้งง่าย และราคาไม่แพง
ไม่ทนร้อน และเสียงดัง
เมทัลชีท
ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง และน้ำหนักเบา
ไม่ระบายความร้อน เสียงดังเวลาฝนตก และเสียรูปง่าย
โพลีคาร์บอร์เนต
สวย, มีให้เลือกหลายสี, เคลือบสารกันรังสียูวี และมีให้เลือกหลายเกรด หลายระดับราคา
ไม่ระบายความร้อน ไม่ค่อยทน
ไฟเบอร์กลาส
แสงสบายตา และราคาไม่แพง
เสียงดังเวลาฝนตก ไม่ค่อยทน
ผ้าใบ
สวย ติดตั้งง่าย พับเก็บได้
ไม่ค่อยทน
การดูแลรักษากันสาดบ้าน
เนื่องจากวัสดุที่นำมาใช้ทำกันสาดบ้านส่วนใหญ่แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ผ้าใบ และหลังคาเมทัลชีท ซึ่งทั้ง 2 แบบมีวิธีการดูแลรักษาต่างกัน ดังนี้
การดูแลรักษากันสาดบ้านชนิดผ้าใบ
1. ม้วนเก็บเมื่อไม่ใช้งาน
การที่กางผ้าใบกันสาดทิ้งไว้นั้นทำให้ผ้าใบโดนแดดหรือฝนตลอดเวลา หากไม่จำเป็นต้องใช้งานแล้วแนะนำให้ม้วนพับเก็บไว้จะดีกว่า เพื่อช่วยถนอมแผ่นผ้าใบไม่ให้โดนความร้อนจากแดดโดยที่ไม่จำเป็น ซึ่งแดดและฝนจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผ้าใบของเราขาดง่ายมากขึ้น เนื้อจากสารเคลือบผิวจะถูกชะล้างเรื่อย ๆ จนบางลงและขาดในที่สุด
2. ม้วนเก็บเมื่อกันสาดผ้าใบแห้งสนิท หากว่าผ้าใบยังไม่แห้งสนิทจากการถูกฝน ก็ยังไม่ควรม้วนเก็บเพราะจะทำให้เกิดความชื้นและเกิดเชื้อรา ซึ่งทำให้ผ้าเปราะบางและอาจขาดได้
3. ระมัดระวังไม่ให้น้ำขังบนผืนผ้าใบกันสาด ปัญหานี้มักเกิดจากการที่ผ้าใบกันสาดชักรอกมีขาค้ำยันแล้วค้ำยันสูงจนเกินไปทำให้ผ้าใบเกือบขนานกับพื้น และเมื่อฝนตกทำให้เกิดน้ำขังบนพื้นผ้าใบ เมื่อน้ำขังเป็นเวลานานจะมีความร้อนจากแสงแดดเกิดขึ้น ความร้อนสะสมของน้ำที่ขังจะทำให้สารเคลือบผิวผ้าใบหลุดล่อนออกมา ผ้าใบส่วนนั้นก็จะบางลงรวมถึงอาจเกิดเชื้อราได้ด้วย
4. หลีกเลี่ยงการโดนของมีคม ปัญหาแบบนี้มักจะเจอกับพวกกิ่งไม้ซึ่งผู้ใช้งานเองอาจไม่ทันสังเกต กิ่งไม้ที่ทิ่มผ้าใบเป็นระยะเวลานานอาจทำให้กันสาดผ้าใบขาดได้ หรืออีกกรณีคือเมื่อลมแรงทำให้ผ้าใบกระพือแล้วเสียดสีกับกิ่งไม้อาจทำให้ผ้าใบกันสาดขาดได้เช่นกัน
การยืดอายุการใช้งานของกันสาดบ้านชนิดผ้าใบไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรือฝนในขณะที่เราไม่ได้ใช้งาน หลีกเลี่ยงการทำให้น้ำขังบนผ้าใบกันสาดรวมถึงการม้วนเก็บในขณะที่ยังเปียกอยู่ และสุดท้ายระมัดระวังก็โดนของมีคม
การดูแลรักษากันสาดชนิดเมทัลชีท
ส่วนกันสาดบ้านที่เป็นหลังคาเมทัลชีทนั้น แม้ว่าจะเป็นเหล็กที่ดูทนทานกว่าผ้าใบ แต่ก็ต้องใส่ใจเรื่องดูแลรักษาด้วยเช่นกัน โดยมีวิธีการดูแลรักษาให้ใช้งานกันได้ยาว ๆ ดังนี้
1. ก่อนและหลังติดตั้ง ต้องทำความสะอาดเสมอ เพื่อ “ขจัดสิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดสนิม” ให้หมดไป เนื่องจากเมทัลชีท คือเหล็ก ที่แม้จะแข็งแรง แต่ก็เสียหายได้ถ้าหากเกิดสนิม ดังนั้นการป้องกันไว้ตั้งแต่แรกเริ่มในตอนสร้าง จะช่วยยืดอายุการใช้งานกันสาดบ้านให้ยาวนานขึ้น
2. เคลื่อนย้ายด้วยความระวัง การเคลื่อนย้ายแผ่นหลังคากันสาดเมทัลชีทนั้น ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้อายุการใช้งานถูกทำให้ลดลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการลาดขนย้าย การโยนจนได้รับการกระแทก กระเทือน หรือการขึ้นไปยืนเหยียบ แต่ถ้าได้รับการกระแทกอย่างแรง ก็ทำให้เกิดความเสียหายได้ และทำให้อายุการใช้งานสั้นลงนั่นเอง
3. หมั่นทำความสะอาดหลังคาเป็นประจำทุกปี กันสาดบ้าน มีส่วนช่วยป้องกันบ้านจากแดด ฝน ฝุ่นละออง และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ จึงทำให้เกิดสิ่งสกปรกสะสมบนกันสาดบ้านได้
ดังนั้นการล้างทำความสะอาดกันสาดบ้านอย่างน้อยปีละครั้งก็ช่วยยิดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น เพราะเมื่อเราทำความสะอาด จะช่วยลดสิ่งสกปรกที่ทำให้เกิดสนิมได้ รวมถึงการหมั่นดูแลซ่อมบำรุง ลงน้ำยา หรือยาซิลิโคน เพื่อซ่อมรอยถลอกเล็ก ๆ ให้ไม่บานปลายกลายเป็นรอยใหญ่ได้ ก็ทำให้อายุการใช้งานของกันสาดบ้านยาวนานขึ้น
ทั้ง 3 ข้อแนะนำนี้ เป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของกันสาดบ้านให้นานมากขึ้น หากมีการดูแลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดปริมาณในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกันสาดบ้านใหม่ได้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ